ประวัติของ อบต. ข้อมูลทั่วไป
นโยบายนายก
โครงสร้าง อบต.
วิสัยทัศน์ และอำนาจหน้าที่
รายนามคณะผู้บริหาร
รายชื่อสมาชิกสภา อบต.
อัตรากำลังของ อบต.
สำนักปลัด
กองคลัง
กองช่าง
กองการศึกษา, ศาสนาและวัฒนธรรม
กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม
แผนยุทธศาสตร์หรือแผนพัฒนาหน่วยงาน
สถิติรายได้
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
วัด
แผนการขับเคลื่อนหน่วยงาน
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การปฏิสัมพันธ์ข้อมูล
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
การดำเนินงาน
แผนยุทธศาสตร์หรือแผนพัฒนาหน่วยงาน
รายงานการกำกับติดตามการดำเนินงานและการใช้งบประมาณประจำปีรอบ 6 เดือน
รายงานผลการดำเนินงานประจำปี
การปฏิบัติงาน
คู่มือหรือมาตรฐานการปฏิบัติงาน
การให้บริการ
คู่มือหรือมาตรฐานการให้บริการ
รายงานผลการสำรวจความพึงพอใจการให้บริการ
ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลดอยหล่อ
ข้อบัญญัติ
รายงานการกำกับติดตามการใช้จ่ายงบประมาณรอบ 6 เดือน
รายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี
การจัดซื้อจัดจ้างหรือการจัดหาพัสดุ
แผนการจัดซื้อจัดจ้างหรือแผนการจัดหาพัสดุ
ประกาศต่างๆ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการจัดหาพัสดุ
สรุปผลการจัดซื้อจัดจ้างหรือการจัดหาพัสดุรายเดือน
รายงานผลการจัดซื้อจัดจ้างหรือการจัดหาพัสดุประจำปี
การจัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบ
แนวปฏิบัติการจัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบ
ช่องทางแจ้งเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบ
ข้อมูลเชิงสถิติเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบประจำปี
การเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม
ช่องทางรับฟังความคิดเห็น
การเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม
มาตรการเสริมสร้างมาตรฐานทางจริยธรรม
ประมวลจริยธรรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
การขับเคลื่อนจริยธรรม
การประเมินจริยธรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐ
เจตจำนงสุจริตของผู้บริหาร
เจตจำนงสุจริตของผู้บริหาร
การมีส่วนร่วมของผู้บริหาร
นโยบาย No Gift Policy
ประกาศเจตนารมณ์นโยบาย No Gift Policy จากการปฏิบัติหน้าที่
การสร้างวัฒนธรรม No Gift Policy
รายงานผลตามนโยบาย No Gift Policy
การประเมินความเสี่ยงการทุจริตและประพฤติมิชอบประจำปี
การดำเนินการเพื่อจัดการความเสี่ยงการทุจริตและประพฤติมิชอบ
แผนป้องกันการทุจริต
แผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริต
รายงานการกำกับติดตามการดำเนินงานป้องกันการทุจริตประจำปี รอบ 6 เดือน
รายงานผลการดำเนินการป้องกันการทุจริตประจำปี
รายงานผลการสำรวจความพึงพอใจการให้บริการ
การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล
นโยบายหรือแผนการบริหารทรัพยากรบุคคล
การดำเนินการตามนโยบายหรือแผนการบริหารทรัพยากรบุคคล
หลักเกณฑ์การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล
รายงานผลการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลประจำปี
การประเมินความเสี่ยงเพื่อการป้องกันการทุจริต
การประเมินความเสี่ยงการทุจริตและประพฤติมิชอบประจำปี
การดำเนินการเพื่อจัดการความเสี่ยงการทุจริตและประพฤติมิชอบ
มาตรการส่งเสริมความโปร่งใสและป้องกันการทุจริตภายในหน่วยงาน
มาตรการส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสภายในหน่วยงาน
การดำเนินการตามมาตรการส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสภายในหน่วยงาน
งานภาษี
ข้อมูลสนามกีฬาในตำบลดอยหล่อ
ข้อมูลศาสนา วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น
นายก อบต. คุยกับประชาชน
ที่อยู่ติดต่อ
แผนที่ของ อบต.ดอยหล่อ
 
 

 

   
 

 ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวกรมอุตฯเตือนชาวเชียงใหม่ <20/10/49>

กรมอุตฯ เตือนว่าเชียงใหม่-มวลอากาศเย็นระลอกใหม่ทำให้หนาวลงอีก
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือย้ำพื้นที่ภาคเหนือเตรียมรับมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนในช่วงปลายสัปดาห์นี้หลายพื้นที่อาจมีฝนฟ้าคะนองก่อนที่อากาศจะเริ่มเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยอดดอยอินทนนท์เช้านี้เหลือ 11.0 องศาแล้ว

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือรายงานว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวงลอากาศเย็นจากประเทศจีนยังคงปกคลุมภาคเหนือของไทยซึ่งทำให้หลายพื้นที่ของภาคเหนือยังมีอุณหภูมิลดลงในช่วงเช้าและกลางคืนจะมีลมหนาว ส่วนบริเวณยอดดอยเริ่มมีอากาศหนาวแล้วเช้านี้

มีรายงานว่าที่ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่อุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ 11.0 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันพรุงนี้ไปจนถึงช่วงปลายสัปดาห์ และอาจยาวไปถึงกลางสัปดาห์หน้าจะมีมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาจะทำให้ระยะแรกตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันนี้เป็นต้นไปทางภาคเหนือตอนบนทั้งเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา จะมีสภาพอากาศแปรปรวนมีฝนฟ้าคะนองๆได้บางพื้นที่ หลังจากนั้นทั่วทั้งภาคอุณหภูมิจะปรับลดลงได้อีก 1-2 องศาเซลเซียส ฝากย้ำพี่น้องเกษตรกรให้เตียมการป้องกันพืชผลทางการเกษตร และรักษาสุขภาพในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงนี้ด้วย (19/10/49)



 


 ประชาสัมพันธ์ "วันปิยะมหาราช" <18/10/49>

เนื่องในวันที่ 23 ตุลาคม 2549 เป็นวันปิยะมหาราช ดังนั้นองค์การบริหารส่วนตำบลดอยหล่อ ขอเชิญเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา วันปิยะมหาราช วันจันทร์ ที่ 23 เดือนตุลาคม พ.ศ.2549 เวลา 08.00 น. ณ หอประชุม กิ่งอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่



 


 ประชาสัมพันธ์ "วันประถมศึกษาแห่งชาติ" <18/10/49>

การศึกษาในระบบโรงเรียนมีขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2427 โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงจัดตั้งโรงเรียนหลวงสำหรับราษฎร์ขึ้นเป็นครั้งแรก ณ วัดมหรรณพาราม
ต่อมาในปี พ.ศ.2464 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงประกาศใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษาขึ้น ซึ่งมีผลให้เด็กที่มีอายุ 7 ปี บริบูรณ์ทุกคนต้องเรียนหนังสืออยู่ในโรงเรียนจนอายุครบ 14 ปี บริบูรณ์ โดยไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน โดยพระราชบัญญัติประถมศึกษานี้ มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พุทธศักราช 2464
ด้วยเหตุดังกล่าว กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กำหนดให้ วันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี เป็น "วันประถมศึกษาแห่งชาติ" และได้จัดงานวันประถมศึกษาแห่งชาติ มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2491-2509
การจัดงาน"วันประถมศึกษาแห่งชาติ" ได้เริ่มมีขึ้นใหม่ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2523 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เหตุที่ได้มีการจัดงานในวันนี้ เนื่องจาก
1. พระองค์ทรงเป็นผู้ให้การสนับสนุนการประถมศึกษาอย่างดียิ่งและทรงเป็นผู้พระราชทานพระราชบัญญัติประถมศึกษา ฉบับ พุทธศักราช 2464 เป็นฉบับแรก
2. วันดังกล่าวเป็นวันที่มีงานเฉลิมพระเกียรติของพระองค์ 2 งาน คือ งานวันมหาวชิรานุสรณ์ และงานวันถวายราชดุดีลูกเสือ
ดังนั้น วันประถมศึกษาแห่งชาติ จึงได้เปลี่ยนจากวันที่ 1 ตุลาคม มาเป็นวันที่ 25 พฤศจิกายน 2523 เป็นต้นมา
วัตถุประสงค์ในการจัดงานวันประถมศึกษาแห่งชาติ
1. เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงวางรากฐานการศึกษาของไทย
2. เพื่อเผยแพร่งานการประถมศึกษาทั้งทางด้านปริมาณและคุณภาพ
3. เพื่อแนะนำและเผยแพร่ความรู้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องและสนใจในด้านการบริหารและการเรียนการสอนระดับประถมศึกษา
4. เพื่อส่งเสริมความรู้และทักษะของนักเรียนระดับประถมศึกษา
5. เพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนระดับประถมศึกษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
6. เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและความสัมพันธ์ระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประถมศึกษา
7. เพื่อปลูกฝังและกระตุ้นความร่วมมือ ร่วมใจให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญ และเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการประถมศึกษา
ในวันงานได้มีการจัดกิจกรรมทางวิชาการด้านต่าง ๆ เช่นกิจกรรมเสริมความรู้ความสามารถของนักเรียน การจัดนิทรรศการทางวิชาการ การให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับการประถมศึกษา ตลอดจนประวัติและวิวัฒนาการของการประถมศึกษา เป็นต้น



 


 ประชาสัมพันธ์ "เทศกาลกินเจ" <17/10/49>

ใกล้เข้ามาสำหรับเทศ กาลกินเจของชาวจีนที่ปวารณาตนงดอาหารที่มีเนื้อสัตว์

พร้อมทั้ง ถือศีลทำบุญทำทานตลอด ช่วงเวลา 9-10 วัน เพื่อชำระร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์

ต่อเนื่องจากความเป็นมาเทศกาลเจ การกินเจอย่าง ถูกวิธี

วาไรตี้ซีรี่ส์เดือนแห่งเทศกาลกินเจสัปดาห์นี้ชวน อิ่มบุญกับ ประเพณีถือศีล กินผักที่มีเอกลักษณ์ของชาวจังหวัดตรัง





กล่าวกันว่าการกินเจมีมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาล

ชาวจีนถือปฏิบัติเป็นประเพณีสืบ ต่อกันมา เทศกาลกินเจจะเริ่มตั้งแต่ 1 ค่ำถึงขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 นับตามปฏิทินจีน ซึ่งจะตรงกับเดือนตุลาคมและ

เมื่อเทศกาลกินเจมาถึง

ชาวจีนจะนุ่งขาวห่มขาว งดการบริโภคเนื้อสัตว์ซึ่งนอกจากทำให้ไม่ต้องแสวงหาเนื้อสัตว์ ทำอันตรายต่อชีวิตสัตว์แล้วยังเป็นการไม่เบียดเบียนสัตว์ในทุกกรณี





อีกทั้งยังงดการบริโภคผักที่มีกลิ่นแรงอย่าง

กระเทียม ต้นหอม กุยช่าย ฯลฯ ถือศีล ทำบุญทำทาน รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ และเมื่อการกินเจกำหนดเป็นเทศกาล ทำให้เทศกาลกินเจขยายกลายเป็นงานใหญ่และงานสำคัญอีกงานหนึ่งของชาวจีน






กินเจ หรือ กินผัก ภาษาจีนเรียกว่า

เก้าอ๊วง เจ หรือ กิวอ๊วงเจ เป็นประเพณีที่ปฏิบัติ สืบต่อกันมาของคนไทยที่มีเชื้อสายจีนทางฝั่งทะเลตะวันตก

โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต ตรัง กระบี่ พังงา แต่เดิมผู้กินเจมักมีเชื้อสายฮกเกี้ยน แต่ปัจจุบันแพร่หลายมีทั้งแต้จิ๋วรวมถึงคนไทยที่มีจิตศรัทธา






จังหวัดตรังที่นี่มีการสืบสานประเพณีถือศีลกิจผักเป็น

ที่รู้จักกันในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ชาวไทย แต่ละปีจึงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยทั้งใกล้ ไกลเดินทางมายังจังหวัดตรังเพื่อร่วมงานประเพณี






ประเพณีถือศีลกินผักหรือกินเจ

จังหวัดตรังมีมายาวนานเช่นกัน ถือเป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวไทยเชื้อสายจีนซึ่งเป็นชุมชนดั้งเดิมในจังหวัดตรังที่ยังคงยึดมั่นปฏิบัติสืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน การถือศีลกินเจครั้งแรกชาวจีนฮกเกี้ยนได้ร่วมกันจัดขึ้นที่ วัดปอน จ

ากนั้นเมื่อมีผู้เข้าร่วมพิธีมากขึ้นจึงย้ายไปยัง ศาลเจ้ากิวอ่องเอี่ย หนึ่งในศาลเจ้าเก่าแก่ของจังหวัดตรังที่ปัจจุบันยังคงสืบต่อประ เพณีการกินผักไว้อย่างเคร่งครัด






ในปีนี้ประเพณีถือศีลกินผัก จังหวัดตรังจะมีขึ้นในช่วงวันที่ 21-30 ตุลาคม 2549

โดยเทศบาลนครตรัง ศาลเจ้าและทางจังหวัดได้ร่วมกันจัดเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อีกทั้งประเพณีนี้ยังเป็นการสืบสานรักษาวัฒนธรรมประเพณี งดงามของชาวตรัง





เมื่อถึงหน้าเทศกาลชาวไทยเชื้อสายจีนที่ศรัทธา

ในประเพณีจะงดรับประทานอาหารที่ปรุงจากเนื้อสัตว์พืชผักที่มีกลิ่นฉุน ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ทุก ชนิดและจะนุ่งขาวห่มขาวตลอดระยะเวลาของงานประเพณี ระหว่างช่วงงาน ศาลเจ้าแต่ละแห่งจะจัดขบวนแห่ออกเยี่ยมเยียนประชาชนซึ่งแต่ละบ้านจะจัดโต๊ะตั้งเครื่องบวงสรวงไว้หน้าบ้าน

เมื่อขบวนมาถึงบ้านใครก็จะจุดประทัดต้อนรับซึ่งตลอดช่วงเวลานี้ถนนสายต่าง ๆ ทั่วเมืองตรังจะดังกึกก้อง สร้างสีสันบรรยากาศชวนติดตาม

ประเพณีการถือศีลกินเจไม่ใช่ว่าจะรับประทานอาหารเจเพียงอย่างเดียว

หากแต่ต้องถือศีล 5 ส่วนการแต่งกายจะนุ่งขาวห่มขาวล้วน ซึ่งเหตุที่ต้องใส่ชุดขาวเพราะเกี่ยวเนื่องกับการรักษาศีลเป็นการชำระร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ นอกจากนี้สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวตรังจะคาดผ้าสีเหลืองรัดเอวไว้ตลอดช่วงถือศีลกินผัก

ส่วนอาหารของคนกินผัก

ที่ควรงดเว้นได้แก่พืช 5 ชนิดประกอบด้วย กระเทียมทั้งหัวและต้น หัวหอม ทุกชนิดทั้งต้นและใบ หลักเกียว ลักษณะคล้ายกระเทียมแต่เล็กกว่า กุยช่าย และ ใบยาสูบ


ประเพณีถือศีลกินผักของจังหวัดตรังยังมีขนมพื้นบ้านที่ใช้ไหว้ในเทศกาลกินเจ

ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ อย่าง ขนมเต่า ซึ่งทำจากแป้งสีแดงเป็นรูปเต่า โดยมีความเชื่อว่าจะมีชีวิตยืนยาว อายุยืน ขนมขึ้น สื่อถึงความรุ่งเรืองเฟื่องฟู นอกจากนี้ยังมี ขนมขาหมู หรือ ขนมเผือกทอด ส่วนประกอบหลักทำจากเผือกและแป้ง ทานเป็นของว่างช่วงกินเจค่อนข้างเป็นที่นิยม เป็นต้น


เสียงหนึ่งจากท่านผู้ รู้เพิ่มเติมถึงประเพณีถือศีล

กินผักของจังหวัดตรังว่า มีความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปี ประเพณีนี้ได้รับการตอบ รับจากคนทุกกลุ่มวัยตั้งแต่เด็ก ผู้สูงอายุอีกทั้งเป็นภูมิปัญญาของคนโบราณ เพราะนอกจากเป็นการทำบุญ

ยังช่วยล้างพิษออกไปจากร่างกายในแต่ละปี นอกจากนี้ยังได้ทำบุญสร้างกุศล ละเว้นชีวิตสัตว์ รักษาศีล สงบกาย วาจา ใจ และนี่ก็คือส่วนหนึ่งของประเพณีถือศีลกิน ผักของชาวจังหวัดตรังที่กำลังจะมีขึ้น





 


 ประชาสัมพันธ์ "ประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2549 " <13/10/49>

องค์การบริหารส่วนตำบลดอยหล่อ และคณะกรรมการจัดงานประเพณีลอยกระทง ร่วมกันจัดงานวันลอยกระทง ประจำปี 2549 วันที่ 5 พฤศจิกายน 2549 ณ บ้านวังขามป้อม หมุ่ที่ 7 ตำบลดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่(บริเวณลานหน้าวัดวังขามป้อม)



 


 ประชาสัมพันธ์ "ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วม การแข่งขันกีฬาประจำตำบลดอยหล่อ ประจำปี 2549 "ดอยหล่อเกมส์ ครั้งที่ 8" <12/10/49>

องค์การบริหรส่วนตำบลดอยหล่อขอประชาสัมพันธ์การจัดทำการแข่งขันกีฬา ประจำปี 2549 "ดอยหล่อเกมส์ ครั้งที่8" ระหว่าง เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนธันวาคม 2549 ซึ่งการแข่งขันจะมีจำนวน 5 ชนิดดังต่อไปนี้.-

1.ฟุตบอลประชาชนทั่วไป

2.ฟุตบอลยุวชน อายุไม่เกิน 12 ปี

3.วอลเลย์บอล ชาย,หญิง

4.ตะกร้อเดี่ยวชาย

5.เปตองทีมเดี่ยวชาย,หญิง และเดี่ยวชาย,หญิง


องค์การบริหารส่วนตำบลดอยหล่อ ขอเชิญท่านผู้สนใจส่งทีมนักกีฬาแต่ละประเภทเข้าร่วมการแข่งขัน ได้ตั้งแต่วันที่ 16 -31 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2549 ณ สำนักงานปลัด องค์การบริหารส่วนตำบลดอยหล่อ (กำหนดจับฉลากแบ่งสายในวันที่ 3 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2549)



 


 ประชาสัมพันธ์ "มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิม(International Horticultural Exposition for His Majesty the King)" ที่ ต.แม่เหียะ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 2549 - 31 ม.ค. 2550พระเกียรติฯ รา <10/10/49>

ราชพฤกษ์ 2549 – มหกรรมแห่งการเฉลิมฉลอง

ในปี 2549 ประชาชนชาวไทย จะมีโอกาสได้ร่วมเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในวโรกาสมหามงคลถึง 2 วาระด้วยกัน คือ การเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 พรรษาในวันที่ 9 มิถุนายน 2549 และจะทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคม 2550

ดังนั้น เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติฯและถวายความจงรักภักดี รัฐบาลไทยจึงมีมติจัดงาน มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ขึ้น ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 – 31 มกราคม 2550 ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้เป็นมหกรรมแห่งการเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ ที่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าใต้ร่มพระบารมี จะได้มีส่วนร่วมในการจัดงาน

งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ จะเป็นงานมหกรรมพืชสวนที่สวยสดงดงามที่สุดงานหนึ่งของโลก และยังเป็นงานมหกรรมระดับโลกที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย อันมีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯพระมหากษัตริย์ผู้เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย การจัดงานครั้งนี้ จึงกำหนดจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมุ่งเน้นการเผยแผ่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพในด้านการเกษตรกรรม และโครงการในพระราชดำริ ซึ่งได้ทรงคิดค้นและก่อตั้ง เพื่ออำนวยประโยชน์สุขให้แก่ประชาชนชาวไทย

ราชพฤกษ์ 2549 – มอบความรักสู่มวลมนุษยชาติ

งาน มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 จัดแสดงบนพื้นที่รวม 470 ไร่ เป็นงานที่ได้รับการรับรองจาก สมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) และ สำนักงานมหกรรมโลก (BIE) โดยจะมีการแสดง ความหลากหลายของพืชพรรณไม้ต่างๆ กว่า 2,200 ชนิด จำนวนกว่า 2 ล้าน 5 แสนต้น ซึ่งนับว่าเป็นมหกรรมพืชสวนโลกเขตร้อนชื้นที่สมบูรณ์ที่สุดของโลก

กิจกรรมสำคัญอีกประการหนึ่งภายในงาน ราชพฤกษ์ 2549 คือ การจัดสวนเฉลิมพระเกียรติฯซึ่งเปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆ องค์กรภาครัฐและเอกชน รวมทั้งบริษัทมหาชนและรัฐวิสาหกิจ ได้มีส่วนร่วมเฉลิมพระเกียรติฯและถวายความจงรักภักดี ด้วยการจัดสวน และการร่วมจัดแสดงกิจกรรมประเภทต่างๆ ภายในงาน

ด้วยการนำเสนอสาระสำคัญของการจัดงาน คือ การมอบความรักสู่มวลมนุษยชาติ ดังนั้น การจัดและตกแต่งสวนรวมทั้งกิจกรรมต่างๆ จึงมุ่งเน้นการสื่อสารให้เห็นความสำคัญของธรรมชาติ และความรักที่ธรรมชาติมีต่อมวลมนุษย์ โดยเฉพาะพืชพรรณไม้ต่างๆ ที่ล้วนมีประโยชน์และคุณค่าต่อทุกชีวิต โดยให้ที่พักพิง คือ บ้านเรือนที่อยู่อาศัย ให้อาหารเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต ให้เครื่องนุ่งห่ม คือ เส้นใยไหมหม่อนที่นำมาทอเป็นเสื้อผ้าที่สวยงาม และให้ยารักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ดังนั้น มนุษย์ จึงควรตระหนักในความสำคัญของธรรมชาติ และตอบแทนธรรมชาติด้วยการดูแลรักษา ทะนุบำรุง และขยายพันธุ์ ให้เจริญงอกงามยิ่งขึ้นๆ ไป

และความรักที่ธรรมชาติมีต่อมวลมนุษย์นี้ เปรียบได้ดังความรักที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย ด้วยทรงห่วงใยและก่อตั้งโครงการในพระราชดำริต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทย จึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันปกแผ่ให้ความร่มเย็นแก่ทุกชีวิตใต้ร่มพระบารมี

ราชพฤกษ์ 2549 – เปิดโลกแห่งอารยธรรมอันล้ำค่า

ไม่เพียงเป็นงานมหกรรมพืชสวนโลก ที่นำเสนอความหลากหลายของพรรณพืช ไม้ดอกไม้ประดับ สมุนไพร และเทคโนโลยี รวมทั้งวิชาการด้านพืชสวนที่ทันสมัยของโลกเท่านั้น แต่ราชพฤกษ์ 2549 ยังจะเป็นงานที่รวบรวมกิจกรรมการแสดงที่มีสาระประโยชน์ มีคุณค่า และแสดงถึงวัฒนธรรมอันล้ำค่าของแต่ละท้องถิ่น แต่ละชาติ/ภาษาไว้อย่างครบครัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันงดงามล้ำค่าของดินแดนล้านนา ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดอารยธรรมที่เก่าแก่ซึ่งสืบทอดกันมายาวนานหลายศตวรรษ

นอกจากนี้ผู้ชมงานยังจะมีได้พบกับการแสดงศิลปะ วัฒนธรรม จากนานาชาติ ที่มิตรประเทศของไทยจากทั่วโลกร่วมนำเสนอตลอดระยะเวลาการจัดงาน

งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 จึงเป็นงานมหกรรมแห่งการเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ที่ประชาชนชาวไทย ต้องไม่พลาดในการเข้าชม และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองและเฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสมหามงคลโดยพร้อมเพรียงกัน



 


 ประชาสัมพันธ์ "ประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ลงวันที่ 5 ตุลาคม 2549" <10/10/49>

ประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ>
ฉบับที่ 1 ( 48/2549 )
เรื่อง ภัยธรรมชาติ ในช่วงฤดูหนาว ของภาคเหนือ ปี พ.ศ.2549
--------------------------
ด้วยฤดูหนาวของภาคเหนือ ปี พ.ศ.2549 จะเริ่มจาก กลางเดือน ตุลาคม 2549 โดยทั่วไป ลมหนาวจากประเทศจีนจะมีกำลังแรงขึ้น และเสริมเข้าปกคลุมภาคเหนือเป็นระยะๆ ทำให้มีเมฆทวีขึ้น และมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงได้ในระยะแรก ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง กลางเดือนพฤศจิกายนมีอากาศเย็นโดยทั่วไป ธันวาคม 2549 และต้นเดือนมกราคม 2550 จะมีหมอกบาง และมีหมอกหนาได้บางพื้นที่ กับมี อากาศหนาวและหนาวจัดได้เป็นบางวัน ปลายเดือนธันวาคม 2549 ถึงต้นเดือนมกราคม 2550 เป็นช่วงที่หนาวที่สุดของปี ตอนบนของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 12-14 องศา บนเทือกเขา ยอดดอย 3-9 องศา และ 15-17 องศาเซลเซียสทางตอนล่างของภาค ฤดูหนาวปีนี้จะมีความหนาวเย็นใกล้เคียงกับปีที่แล้ว จะอุ่นกว่าค่าเฉลี่ย 1-2 องศาเซลเซียส และจะสิ้นสุดลงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2550 เมื่อลมหนาวจากประเทศจีนมีกำลังอ่อนลง ทำให้มีอากาศอุ่นขึ้นตามลำดับ
ภัยธรรมชาติ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงฤดูหนาวปีนี้ คือ พายุฝนฟ้าคะนอง ในเดือน ตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม 2549 เป็นพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจเกิดลูกเห็บตกลงมาด้วย ซึ่งจะทำความเสียหายแก่ชีวิต ทรัพย์สินและ สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ตลอดจนพืชผลทางการเกษตร น้ำค้างแข็งบนเทือกเขา ยอดดอย และหมอกหนา ในเดือนธันวาคม 2549 และมกราคม 2550 น้ำค้างแข็ง ทำให้ผลผลิตทางเกษตรกรรมบนที่สูงเสียหาย และหมอกหนาเป็นอุปสรรคในการคมนาคมในตอนเช้า
จึงขอให้ประชาชนในภาคเหนือโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ตลอดจนวางแผนป้องกัน และระวังภัยธรรมชาติที่อาจเกิดได้ในช่วงฤดูหนาว ปี พ.ศ.2549 นี้ ตลอดจนติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่องได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 053-277919 , 053-922365 และ 053-281271 พื้นที่ฝนตกจาก เรดาร์ตรวจอากาศ ใน www.cmmet.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ประกาศ ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2549
ออกประกาศเวลา 14.30 น.




 


 ประชาสัมพันธ์ ข่าวจากกรมอุตุฯเตือนทุกภาคมีฝน-18จ.น้ำท่วมฉันพลัน <03/10/49>

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนทุกภาคมีฝนตกหนักถึงหนักมาก 18 จังหวัด ระวังน้ำท่วมฉับพลับ จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน "ช้างสาร"

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์อากาศประจำวันอังคารที่ 3 ตุลาคม 2549 เมื่อเวลา 06.00 น. ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน "ช้างสาร" ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคตะวันออก และอ่าวไทย

ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนตกหนักได้ ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะจังหวัดเพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สกลนคร นครพนม สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราดระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งต่อไปอีกระยะหนึ่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ จนถึงเวลา 06.00 น.วันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 31 องศา ต่ำสุด 25 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 องพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิสูงสุด 33 องศา ต่ำสุด 23 องศา ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ อุณหภูมิสูงสุด 30 องศา ต่ำสุด 23 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท และกาญจนบุรี อุณหภูมิสูงสุด 31 องศา ต่ำสุด 24 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ ชม.

ภาคตะวันออกรวมทั้งชายฝั่ง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิสูงสุด 30 องศา ต่ำสุด 24 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา อุณหภูมิสูงสุด 31 องศา ต่ำสุด 22 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิสูงสุด 30 องศา ต่ำสุด 23 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร



 


 ประชาสัมพันธ์ "ประกาศ กรมอุตุนิยมวิทยาฉบับที่ 16 เรื่อง พายุช้างสาร" <03/10/49>

พายุดีเปรสชั่น "ช้างสาร" เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 ตุลาคม 2549 มีศูนย์กลางอยู่บริเวณจังหวัดนครราชสีมา มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้ กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลักษณะเช่นนี้ จะทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมาก

ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา เลย ขอนแก่น ลพบุรี สระบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก

สำหรับภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งทะเลอันดามันจะได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมาก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดระนอง ชุมพร และพังงา ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทย มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ
 
     
หน้า:   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117   118   119   120   121   122   123   124   125   126   127   128   129   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150   151   152   153   154   155   156   157   158   159   160   161   162   163   164   165   166   167   168   169   170   171   172   173   174   175   | 176 |   177   178   

 

 

 
 
 Copy Right 2006-2024 โดย องค์การบริหารส่วนตําบล ดอยหล่อ - http://www.doilor.org
สำนักปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่
เว็บไซต์ ออกแบบและพัฒนาโดย www.click2solutions.com